สิทธิความเป็นส่วนตัวในยุคดิจิทัล: มุมมองด้านสิทธิมนุษยชนและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
/in ข่าว“เราไม่เคยอยู่ตามลำพังในโลกดิจิทัล” เคยรู้สึกว่าตนเองกำลังถูกจับจ้อง และเฝ้าติดตามตลอดเวลาไหม รู้สึกว่าสิ่งที่เราคิด สิ่งที่เขียน สิ่งที่พูดและสิ่งที่ทำ ล้วนแต่มีคนรู้ เนื่องในวันสิทธิมนุษยชนสากล 10 ธันวาคม มาทบทวนเรื่องสิทธิความเป็นส่วนตัวในยุคดิจิทัลกันครับ
สิทธิความเป็นส่วนตัวจากอดีตเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2491 สหประชาชาติได้รับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งข้อ 12 ได้รับรองสิทธิความเป็นส่วนตัวไว้อย่างชัดเจน แต่ในเวลานั้น ใครจะคาดคิดว่า 75 ปีต่อมา โลกจะเปลี่ยนแปลงไปมากจนการละเมิดความเป็นส่วนตัวกลายเป็นเรื่องง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส จากยุคที่การละเมิดความเป็นส่วนตัวจำกัดอยู่ที่การแอบฟัง แอบอ่านจดหมาย หรือสอดส่องทางกายภาพ มาสู่ยุคที่ข้อมูลส่วนตัวของเราถูกเก็บรวบรวมและวิเคราะห์อย่างละเอียดผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล
เมื่อทุกย่างก้าวถูกจับตามอง ในแต่ละวัน เราทิ้งร่องรอยดิจิทัล (Digital Footprint) ไว้มากมาย เช่น การใช้ชีวิตประจำวัน ตั้งแต่การโพสต์และแชทบนโซเชียลมีเดีย จะบ่งบอกความสนใจและความสัมพันธ์ของเรากับสิ่งต่าง ๆ การช้อปปิ้งออนไลน์จะเผยพฤติกรรมการใช้จ่ายและรสนิยมของเรา การใช้แอปพลิเคชัน เปิดเผยกิจวัตรและไลฟ์สไตล์ของเรา ทุกการเดินทางและตำแหน่งที่อยู่ จะมี GPS ซึ่งจะเปิดเผยเส้นทางการเดินทาง หรือการเช็คอินสถานที่ จะเปิดเผยสถานที่ที่สนใจ การใช้บริการขนส่งผ่านแอป และการบันทึกเส้นทางประจำ ส่วนการค้นหาและการเรียนรู้ จะบันทึกประวัติการค้นหาบ่งบอกความสนใจและความกังวลของเรา การดูวิดีโอออนไลน์สะท้อนความชอบและทัศนคติต่าง ๆ และการอ่านข่าวสารแสดงมุมมองทางการเมืองและสังคม
กฎหมายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของคนไทย หรือ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ได้สร้างมาตรฐานใหม่ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยให้สิทธิสำคัญแก่เจ้าของข้อมูล ตั้งแต่สิทธิพื้นฐาน ได้แก่ สิทธิในการรับรู้ (Right to be Informed) เพื่อทราบว่าใครเก็บข้อมูลอะไรไว้บ้าง สิทธิในการเข้าถึง (Right of Access) เพื่อขอดูข้อมูลของตนเองได้ และสิทธิในการแก้ไข (Right to Rectification) เพื่อแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน ขณะเดียวกัน PDPA ยังให้สิทธิในการควบคุม ได้แก่ สิทธิที่จะถูกลืม (Right to be Forgotten)เพื่อขอลบข้อมูลที่ไม่ต้องการ สิทธิในการคัดค้าน (Right to Object) เพื่อปฏิเสธการใช้ข้อมูลได้ และสิทธิในการเคลื่อนย้ายข้อมูล (Right to Data Portability) เพื่อโอนข้อมูลไปที่อื่นได้
แม้ว่าจะมี PDPA แต่การละเมิดสิทธิของคนไทยและการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยจากองค์กรของรัฐและเอกชนขนาดใหญ่ ยังเป็นเรื่องที่เกิดขึ้น โดยไม่มีแนวโน้มที่ลดลง โดยเฉพาะการละเมิดความเป็นส่วนตัว จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในชีวิตของผู้คนจำนวนมาก เพราะเกิดการสวมรอยทำธุรกรรมทางการเงิน การใช้ข้อมูลเพื่อหลอกลวงญาติและคนใกล้ชิด รวมทั้งการนำข้อมูลไปใช้ในการก่ออาชญากรรมอื่น ๆ
แต่เมื่อเทคโนโลยี AI มีความสามารถเพิ่มมากขึ้นและถูกนำมาใช้ได้ง่ายขึ้นด้วยต้นทุนที่ถูกลง ซึ่งทำให้ AI มีประโยชน์ต่อมนุษยชาติ แต่ก็กำลังสร้างความท้าทายใหม่ ๆ ในการคุ้มครองความเป็นส่วนตัว เพราะ AI จะสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมและทำนายการตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น จะมีการนำระบบจดจำใบหน้าและท่าทางถูกใช้ในที่สาธารณะมากขึ้น มีการใช้กล้องวงจรปิดที่มี AI วิเคราะห์พฤติกรรม มีการใช้ AI ในระบบติดตามการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ซับซ้อนขึ้น มีการใช้ AI การวิเคราะห์เสียงและการสนทนาแบบเรียลไทม์ หรือแม้แต่การใช้ AI สร้าง Deep Fake ที่สมจริงจนแยกแยะได้ยาก
แนวทางปกป้องความเป็นส่วนตัวในยุคดิจิทัล สำหรับบุคคล การป้องกันเบื้องต้น เช่น การตรวจสอบและปรับการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในทุกแพลตฟอร์ม การใช้รหัสผ่านที่ซับซ้อนและเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอ เปิดการยืนยันตัวตนสองชั้นในทุกบริการที่สำคัญ ส่วนการใช้งานออนไลน์อย่างปลอดภัย ควรระมัดระวังการแชร์ข้อมูลส่วนตัวบนโซเชียลมีเดีย ระวังในการเชื่อมต่อเครือข่ายสาธารณะ และหมั่นตรวจสอบประวัติการทำธุรกรรมและรายงานเครดิต นอกจากนี้ควรหมั่นศึกษาและทำความเข้าใจนโยบายความเป็นส่วนตัวก่อนใช้บริการ ระวังการหลอกลวงทางออนไลน์และการแอบอ้างตัวตน และรายงานเมื่อพบการละเมิดความเป็นส่วนตัว ขณะที่องค์กรต่าง ๆ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลอย่างเคร่งครัด โดยให้ความสำคัญกับส่งเสริมให้บุคลากรขององค์กรตระหนักถึงสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งมีมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลที่เหมาะสม
ความเป็นส่วนตัวคือรากฐานของเสรีภาพ ในวันสิทธิมนุษยชนสากล 10 ธันวาคมนี้ เราต้องตระหนักว่าสิทธิความเป็นส่วนตัวไม่ใช่เพียงเรื่องของปัจเจกบุคคล แต่เป็นรากฐานสำคัญของสังคมประชาธิปไตย การปกป้องความเป็นส่วนตัวในยุคดิจิทัลจึงเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกภาคส่วน เพราะในโลกที่ข้อมูลคือพลัง การปกป้องความเป็นส่วนตัวคือการปกป้องเสรีภาพของเราทุกคน